เมื่อได้กล่าวถึง เทพฮาเดส พญามัจจุราชแห่งปรโลกไปแล้ว คราวนี้มาถึง
ราชินีผู้เลอโฉมแห่งปรโลกล่ะกัน
ราชินีผู้งดงามเคียงข้างบนบัลลังก์แห่งปรภพแห่งเจ้าเหนือวิญญาณทั้งปวงในอาณาจักรใต้พิภพ
พระเทพีพระองค์นี้ คือ "เทพีเพอร์เซโฟนี"
ผู้เป็นหลานสาวแท้ๆ ของเทพฮาเดสผู้นี้ เทพีแห่งความเจริญงดงาม
พระองค์ทรงเป็นพระธิดาในเทพซีอุสกับเทพีดิมิเตอร์ โพสพเทพีแห่งกรีก
เมื่อเทพีดิมิเตอร์กับเทพีเพอร์เซโฟนีอยู่ด้วยกัน
ความอุดมสมบูรณ์แห่งพืชพรรณธัญหารก็จะบังเกิดขึ้น
แต่เมื่อทั้งสองพรากจากกันความแห้งแล้งและอดอยากก็จะมาเยือนสรรพชีวิต เพราะเทพีเพอร์เซโฟนีเป็นสัญลักษณ์แห่งการเจริญงอกงาม
เมื่อความเจริญงอกงามไม่อยู่ พืชผลก็ล้มตาย
และอยู่ๆ จากเทพีผู้สดใสน่ารักตามประสาสาววัยแรกรุ่น
ก็พลิกผันกลายเป็นราชินีแห่งปรโลกและเย็นชาไปได้อย่างไร ตามตำนานเล่าว่า
เทพีเพอร์เซโฟนีถูกตาต้องใจเทพฮาเดสเป็นอันมาก
พระองค์จึงลักพาตัวไปยังอาณาจักรใต้พิภพ
และสวมมงกุฎที่ประดับด้วยอัญมณีที่งดงามแก่เทพีเพอร์เซโฟนีทั้งๆ ที่พระเทพีร้องไห้เสียใจแห่งความพลักพลาก
เทพฮาเดสยินดีกับที่พระองค์ทรงได้พระมเหสีที่งดงามและผ่องใส
พระเทพีทรงเกลียดพระสวามีมาก
ถึงขนาดเกิดความเย็นชาไม่สนใจอะไรในพระสวามีเลยตั้งแต่อภิเษกกันมา
แต่เมื่อพระเทพีถึงกำหนดขึ้นสู่พื้นพิภพใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกและเย็นชา
เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์และกลายเป็นใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มและชีวิตชีวา
ความแห้งแล้งบนโลกหายไปสิ้น กลับบังเกิดความอุดมสมบูรณ์ขึ้น
แสดงถึงวันที่พระเทพีได้กลับสู่อ้อมอกพระมารดาอีกครั้ง
กลายเป็นตำนานความเป็นของฤดูกาล
ถึงพระเทพีจะทรงมิชอบพระสวามี แต่อย่างไรก็มีความรู้สึกรักบ้าง
เข้าตำราว่า รักนะแต่ไม่แสดงออก
ทำให้เทพฮาเดสไม่รู้ว่าพระเทพีก็ทรงรักในเทพฮาเดสอยู่บ้าง ในตำนานเคยกล่าวว่า
พระองค์ลงมือสังหาร นางไม้ นามว่า "มินธี" สิ้นคาที่
โดยมีเทพีดิมิเตอร์ผู้เป็นพระมารดาร่วมด้วย
นี้แสดงได้ถึงความหึงหวงที่พระเทพีมีให้เทพฮาเดส ของใครของใครก็หวง อะไรบางนั้น
มีตำนานเล่าถึงวีรบุรุษนามว่า"ออร์ฟีอุส" เป็นพระโอรสแห่งเทพอะพอลโล
จึงเก่งกาจในการเล่นพิณ
เขาเป็นมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เดินทางไปปรโลกอาณาจักรแห่งเทพฮาเดส
เพื่อตามหาดวงวิญญาณของนางไม้ยูลิดิซี นางอันเป็นที่รักกลับคืนสู่พื้นโลกเบื้องบน
ด้วยเสียงพิณอันไพเราะและเศร้าทำให้พระราชินีแห่งปรโลก ที่ว่ามีความเย็นชา กลับร้องไห้ออกมาและทูลวิวองต่อเทพฮาเดสผู้เป็นพระสวามีให้ออร์ฟีอุสนำวิญญาณของนางยูริดิซีไป
เพราะพระเทพีทรงสงสารในความรักของทั้งสอง เป็นทั้งแรกและครั้งสุดท้าย
ที่พระเทพีร้องไห้ให้เห็นในปรโลก และมีพระเมตตาสงสารขึ้นมา ซึ่งจากวันนั้นมา
พระเทพีก็กลับมาเย็นชาตามเดิม
ในตำนานรักของกรีก 1 ในตำนานนั้นเป็นที่รักในตำนานเทพเจ้ากรีก คือ
ตำนานอีรอสกับไซคี ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า
อีรอสรู้แล้วว่าไซคีรู้ความจริงว่าตนเป็นเทพบุตรจึงบินหนีไป
ไซคีจึงออกตามหาพระสวามีนั่นคือ เทพบุตรอีรอส จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเทพีอโฟรไดทิ
ซึ่งนางไม่รู้เลยว่า เทพีอโฟรไดทิต้องการกำจัดนางเพราะนางไซคีสวยกว่าพระองค์
เทพีอโฟรไดทิจึงช่วยให้นางไซคีไปขอความงามจากเทพีเพอร์เซโฟนีราชินีแห่งปรโลกมาให้พระองค์
นางไซคีไม่รู้ว่าการใช้ของพระเทพีในครั้งนี้ เป็นการส่งนางไปตาย
แต่นางไซคีก็ยอมทำเพราะต้องการพระสวามีกลับคืน
นางไซคีได้รับความช่วยเหลือจากเทพเจ้าที่เห็นใจในความภักดีของนางจนมาถึงตำหนักที่พำนักแห่งเทพีเพอร์เซโฟนี
พระเทพียืนผอบทองคำให้มา และนางไซคีก็รับมาและนำกลับไปให้เทพีอโฟรไดทิ
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของนาง พอเปิดผอบมันกลับกลายเป็นการหลับไหลนิรันดร
นางไซคีสิ้นใจลง อีรอสที่แอบตามมาห่างๆ ก็ออกมาและได้ขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าบนโอลิมปัส
จนเทพซีอุสประทานความเป็นอมตะแก่นางไซคี
และเทพบุตรอีรอสกับนางไซคีก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดกาล
เรื่องที่ยกมานี้เพื่อให้ทราบว่า เทพีเพอร์เซโฟนี ถูกกล่าวในตำนานและเทพนิยายของกรีก
ซึ่งถึงว่าพระองค์มีความสำคัญต่อชาวกรีกไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น